
ไม่รู้ว่าผู้กำกับคนนี้ในหัวแม่งมีอะไรอยู่ถึงได้ทำหนังห่าเหวขนาดนี้ออกมาได้ หนังเรื่อง The Human Centipede 2 (Full Sequence) หรือมนุษย์ตะขาบภาค 2 (ตอนจบ) ที่บรรเลงเพลงอุบาทว์ สานต่อ The Human Centipede (First Sequence) มนุษย์ตะขาบภาคต้นได้อย่างน่าอาเจียนใส่เป็นที่สุด ใครเคยดูภาคแรกแล้วคิดจะดูภาคสองต่อผมขอเตือนด้วยความหวังดีว่า ภาคนี้มันไม่ละมุนละไมเหมือนภาคแรกหรอกนะ

ภาคแรกเล่าถึงคนดวงซวย 3 คนหญิงสองชายหนึ่งที่หลงไปเจอกับหมอกรามเหลี่ยมที่เหมือนใครบางคน มีความใฝ่ฝันอยากที่จะทำตะขาบด้วยคนเป็นๆ!! วิธีการทำที่หมอได้ฉายสไลด์ให้ชมคือ จับคนมาผ่าตัดให้ปากไปติดกับตูด ทำให้ระบบขับถ่ายของทั้งสามเป็นระบบเดียวกัน และตัดลูกสะบ้าที่เข่าออก (ชื่อในสไลด์ดันเสือกเป็นชื่อ Siamese Tripled ซะอีก เวร!) อธิบายภาพให้ลึกขึ้นคือมีคนมีคุกเข่าเป็นแถวตอนเรียงหนึ่งโดยที่ปากของคนที่ 2 ติดกับตูดคนที่ 1 และปากของคนที่ 3 ติดกับตูดของคนที่ 2 ไม่ต้องเป็นถึงผู้ใหญ่หรือกำนัน เด็กอนุบาลสองก็คิดได้ว่า หากคนแรกเกิดปวดท้องขี้ขึ้นมาอะไรจะเกิดขึ้น!!!
ภาคแรกจัดว่าเป็นการทดลองแนวคิดซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการทำให้คนดูขยักขย่อนจนอยากจะคายข้าวขาหมูทิ้ง ในเรื่องจะไม่มีฉากให้เห็นอุนจิ หรือควักตับไตออกมาแกว่งไกวหลอกหลอนคนดู แต่การใช้เสียง สีหน้า และความสามารถในการให้คนดูจินตนาการถึงเหตุการณ์ต่อไปหลังจากได้ยินเสียงกรอดๆในลำไส้ใหญ่ของคนหัวแถว ผมถือว่าภาคแรกนำเสนอแนวคิดได้ประสบความสำเร็จโดยที่ไม่มีฉากแหวะมากมายเกินไปนัก หนังโหดที่ไม่ใช้เอฟเฟคทำให้น่ากลัว แต่กลับสยดสยอง ชวนกระอักกระอ่วน นับว่าเป็นหนังโหดระดับคลาสิคเลยทีเดียว

ภาคสองไม่ใช่อย่างนั้น
ไม่รู้ว่านาย Tom Six ผู้กำกับเกิดนึกเฮี้ยนอะไรขึ้นมา หรือไปโดนขา Gore เป่าหูมาก็ไม่ทราบได้ เลยจัดหนักกับภาคสองที่ชื่อหนังห้อยท้ายด้วย "Full Sequence" ราวกับบอกเป็นนัยยะว่า "ภาคนี่กูมาเต็มนะเมิง.." หนังนำเสนอเรื่องราวของชายคนหนึ่งชื่อมาร์ตินทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่สนง.แห่งหนึ่งมาร์ตินแกชอบดูหนังเรื่อง The Human Centipede (First Sequence) มากๆ (อีตา Tom six แกจับเอาหนังภาคหนึ่งเข้าไปอยู่ในหนังภาคสองซะงั้น) ถึงขั้นเป็นแฟนพันธุ์แท้ก็ไม่ผิดนัก คลั่งไคล้ถึงขนาดเก็บสะสมรูปในหนังจนเต็มสมุด มาร์ตินอาศัยอยู่กับแม่ที่ดูจะเป็นโรคจิตอ่อนๆ ชอบดุด่ามาร์ตินเป็นประจำ จนถึงขนาดแอบลอบฆ่ามาร์ตินก็มี!!
เรื่องแตกหักเกิดขึ้นเมื่อแม่เกิดไปเจอสมุดเก็บสะสมภาพในหนัง ทำให้แม่โมโหไล่มาร์ตินออกจากบ้าน รวมถึงฉีกสมุดทิ้งเป็นชิ้นๆ ราวกับหัวใจมาร์ตินแตกสลาย สิ่งที่เก็บกดทั้งหมดทั้งมวลจึงระเบิดออกมา จากเรื่องในหนังจึงเกิดกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา มาร์ตินทำมาตุฆาตด้วยความโกรธแค้น (สภาพศพอนาถมาก) รวมถึงไอ้บ้านาซีที่ชอบทำร้ายทุบตีมาร์ตินและแม่ลงมาเห็นจึงตกเป็นเหยื่อไปด้วยอีกคน ถึงนาทีนี้มาร์ตินสติแตก 100% เก็บสะสมเหยื่อทีละคนสองคนเพื่อมาทำสิ่งที่ตัวเองคิดมาตลอดคือ ทำมนุษย์ตะขาบให้ยิ่งใหญ่กว่าในหนัง!!!
จำนวนเหยื่อที่จะเอามาสร้างตะขาบของมาร์ตินมีถึง 12 คน!! จากที่ภาคแรกมี 3 คน ทั้งคนดำ คนท้อง ผู้หญิง ผู้ชาย หนึ่งในนั้นคือนักแสดงสาวในหนังภาคแรกที่มาร์ตินไปหลอกมาเพื่อให้เธอเป็นมนุษย์ตะขาบของจริง!

เรื่องดำเนินเนิบนาบ ต่อนยอน ต๊ะ ต่อนยอน มาเรื่อยจนหนังเกือบจบ จึงมีบุญได้เห็นมนุษย์ตะขาบตัวเป็นๆที่ Tom Six ภูมิใจนำเสนอเสียที กว่าจะได้ตะขาบตัวนี้มาร์ตินต้องเสียปล้องคนไปถึงสองปล้องจากการผ่าตัดที่ไม่ประสบความสำเร็จ การเสียเลือดมากทำให้เหยื่อช็อกและเสียชีวิต มาร์ตินจึงหาวิธีใหม่เพื่อจะเชื่อมคนทั้ง 10 คนเข้าด้วยกัน โดยวิธีนั้นถือเป็นฉากเด็ดฉากหนึ่งที่ห้ามพลาด เพื่อให้คนดูไม่นั่งสัปหงก นาย Tom Six ที่ได้ร่วมมือกับมาร์ตินผลิตความสยอง และอุบาทว์มาแบบไม่ยั้ง อาทิ มาร์ตินไปฉีดยาถ่ายให้กับทุกคนที่เชื่อมติดกัน หลังจากนั้นคงไม่ต้องบรรยาย ฉากคนท้องคลอดลูกแบบจะๆ ฉากปล้องมนุษย์พยายามเอาปากออกจากตูดให้ได้ (เชี่ย!)
สรุปรวมความว่าภาคสองนี้ไม่ได้ให้อะไรแปลกใหม่ไปมากกว่าฉากสยองที่ดูจะเน้นตรงนี้มากกว่าไอเดียอย่างที่ภาคแรกทำ คะแนนที่ IMDB ได้ไป 2 คะแนนเต็มสิบ จากคนโหวตเกือบ 3,000 คน คะแนนนั้นคงได้มาจากการใช้เอฟเฟคได้อย่างสมจริง นักแสดงอย่าง Laurence R. Harvey ที่รับบทมาร์ตินได้สมบทบาทเรียกได้ว่าเขาคงเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ นอกจากนั้นไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก ส่วนคนที่ชอบเสพงานแบบนี้ผมว่าคงสาแก่ใจกันไปบ้างไม่มากไม่น้อย ดูจบคงซู้ดปากกันเป็นแถว หวังอย่างหนึ่งว่าภาคสามที่คาดว่าจะมีแน่ๆภายในปีสองปีนี้ คงไม่เพิ่มจำนวนตะขาบเป็น 99 คนหรอกนะ
อย่างนั้นมันน่าเบื่อออก