
ผมดูหนังเรื่องนี้จบไปตั้งแต่หลายอาทิตย์ก่อน ตอนนั้นยังคิดหน้าคิดหลังอยู่ว่าจะนำมาเขียนดีหรือเปล่า เพราะหนังมันช่างมืดหม่น ไร้แก่นสาร จับใจความในเนื้อหนังไม่ถูกจริงๆ เขียนไปเกรงว่าจะไม่ได้ประโยชน์กับคนอ่านจึงนั่งคิดอยู่หลายวัน วันนี้ฤกษ์ดีวันจันทร์เลยขอมาแนะนำหนังแปลกประหลาดเรื่องนี้ให้รับชมกัน
Pig (1998) เป็นหนังใต้ดินกำกับโดย Nico B. ผู้กำกับชาวอเมริกัน และเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ Rozz Williams (ฆาตกรในหนัง) นักร้องเพลงเดธร็อกที่ฆ่าตัวตายโดยการแขวนคอในห้องพัก ตอนแรกนึกว่าจะเป็นหนังโหดเลือดสาด เนื่องจากถูกจับเข้าไปใส่ในการเขียนแนะนำหนังต้องห้ามของหลายๆคนในอินเตอร์เนต แต่พอได้ดูจริงๆไม่อาจกล่าวได้ว่าถึงขั้นเป็นหนังต้องห้ามใดๆ เพราะภาพส่วนใหญ่ในหนังจะออกแนวนามธรรมที่ชวนให้กุมขมับ มากกว่าอาการตื่นเต้นหรือหวาดเสียวเสียอีก
Pig จัดเป็นหนังชนิดที่เรียกว่า หนังแนวทดลอง (Experimental Film) ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าแนวทดลองจึงดูไม่ค่อยประนีประนอมกับคนดูมากนัก (ก็เขาทดลองนี่) ซึ่งหากว่าคุณหามาดูแล้วไม่รู้เรื่องก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สบายใจได้ หากจะกล่าวสั้นๆเกี่ยวกับลักษณะหนังแนวทดลองก็ต้องอธิบายว่าเป็นหนังที่แหวกกระแสแบบที่ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน เหมือนกำลังทดลองเทคนิค หรือกรรมวิธีบางอย่างทางภาพยนตร์ มักจะฉายในวงแคบๆโดยไม่หวังผลทางธุรกิจ เนื้อหาทำนองต่อต้านขนบธรรมเนียม ความเชื่อของคนส่วนใหญ่ และมีความรุนแรงกลั้วอยู่ในที มีการแบ่งชนิดของหนังแนวทดลองออกเป็นหลายหัวข้อ เช่น Abstract Film, The Absolute Film, Dada and Surrealist Film ฯลฯ
ชายลึกลับเตรียมเครื่องมือหลายอย่างลงในกระเป๋า และเดินทางด้วยรถไปยังบ้านหลังหนึ่งที่รอบข้างเต็มไปด้วยความรกร้างว่างเปล่า เหมือนชายแดนเม็กซิโกไม่มีผิด ข้างๆกันนั้นมีชายที่พันผ้าที่หัวนั่งรถไปด้วย พอเข้าไปในบ้านชายลึกลับก็เปิดกระเป๋าเอกสารหยิบเอาเครื่องมือออกมามีทั้งกรรไกร มีด เข็มฉีดยา หนังสือประหลาด และหลายๆอย่างที่น่าจะเอาทำอันตรายกับชายโพกผ้าแน่ๆ ชายลึกลับเปิดหนังสือที่คาดว่าเป็นตำราของซาตานอ่านขั้นตอนและทำตามหนังสือเล่มนั้นกับเหยื่อ แต่ละขั้นตอนที่วิตถารพิศดารเหลือรับประทาน มีกระทั่งเย็บ...ของเหยื่อไว้กับ... หรือการใช้มีดโกนกรีดตามร่างกายของเหยื่อเป็นคำว่า Pig
ภาพในหนังเป็นแนวเหนือจริง (Surrealist) ชวนแหวะบ้างเล็กน้อยพอทนได้ เสียงประกอบเป็นเหมือนเสียงหึ่งๆของยวดยานพาหนะบนท้องถนนแถวสุขุมวิทมากกว่าเสียงหลอกหลอนของปีศาจ บางจังหวะสามารถที่จะพาคนดูให้ขนหัวลุกกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่หนังไม่พาเราไปถึงตรงนั้น ผมไม่รู้ว่าเป็นการจงใจ หรือความกล้าๆกลัวๆที่จะ "ทดลอง" กันแน่ ซึ่งค่อนข้างน่าผิดหวังสำหรับความพยายามตลอด 23 นาทีของหนังเรื่องนี้
No comments:
Post a Comment