
ท่ามกลางความกดดันในเมืองใหญ่ สภาพบ้านเมืองที่วิกลด้วยอำนาจบาทใหญ่ของระบบเศรษฐกิจ หรือสภาพบีบอัดทางสังคมได้ถีบหัวส่งให้คนบางพวกคิดถึงเรื่องชีวิตไม่ยืดยาวเท่าเทียมมนุษย์ปุถุชนทั้งหลาย หลายคนหันหน้าหนีความจริง มองหา และจินตนาการถึงพื้นที่ใหม่หลังความตาย หรือหวังใจถึงชีวิตในภพหน้าที่(น่าจะ)ดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คนทั้งหลายเหล่านั้นเลือกที่จะจบชีวิตของตัวด้วยน้ำมือของตนเอง ทิ้งคำถามสั้นๆไว้ให้คนที่อยู่เบื้องหลังเป็นผู้ตอบแทนว่า ชีวิตคือสิ่งที่สวยงามกระนั้นหรือ?
อับบาส เคียรอสตามี ผู้กำกับชั้นครูของโลกทิ้งคำถามสำคัญนี้ไว้กับ Taste of Cherry หนังรางวัล Palme d'Or รางวัลสูงสุดของเทศกาลหนังเมืองคานส์ประจำปี 1997 1 อับบาส เคียรอสตามีพาเราไปติดตามชีวิตของนายบาดี ที่ตระเวณขับรถรอบๆเมืองเตหะรานเพื่อหาใครสักคนมาช่วยทำงานสำคัญมากที่สุดในชีวิตของเขา บาดีเจอทหารหนุ่มนายหนึ่งจึงชวนขึ้นรถและชวนคุยถึงเรื่องต่างๆ รวมถึงบางเรื่องที่เข้าไปสำรวจสภาพครอบครัวและฐานะ เหมือนกำลังหยั่งความสามารถว่าพอที่จะมารับงานของเขาได้หรือไม่ จำนวนค่าตอบแทนที่จะให้สำหรับคนที่มารับงานนี้ มันย่อมสะกิดต่อมสงสัยของใครก็ตามที่รู้ถึงปริมาณเลขศูนย์นอนที่เรียงกันถึงห้าหลัก ถึงทหารหนุ่มคนนี้จะไม่ฉลาดมากมาย แต่ก็ไม่โง่พอที่จะตะครุบเงินก้อนโตโดยที่ไม่ไถ่ถามถึงรายละเอียดของงานลึกลับนี้ซะก่อน ไม่แน่ว่างานชิ้นนี้ของบาดีอาจจะมีความสุ่มเสี่ยง หรือให้ทำในสิ่งที่เกินเลยไปจากบรรทัดฐานของสังคมก็เป็นได้
บาดีพาทหารหนุ่มมาถึงที่แปลกเปลี่ยว รกร้าง มีหลุมหนึ่งถูกขุดทิ้งไว้อย่างเป็นปริศนา บาดีบอกสิ่งที่ทหารหนุ่มต้องทำ หลังจากที่ทหารหนุ่มได้ฟังรายละเอียดแกมขอร้องบวกการยั่วยุ ทำให้ทหารหนุ่มตัดสินใจก็กระโดดหนีจากรถแล้ววิ่งเตลิดไปไกล ทิ้งเพียงฝุ่นผงกระเด็นลอยฟุ้งให้เขามองตามไปอย่างเงียบๆ งานง่ายๆที่บาดีต้องการให้ทำคือ ในตอนเช้ามืดของวันพรุ่ง ให้กลับมายังที่ตรงนี้แล้วขานชื่อ บาดี! บาดี! หากมีเสียงตอบก็ให้ฉุดเขาขึ้นมาจากหลุม, แต่หากไม่มีเสียงตอบใดๆ ให้ช่วยโกยดินฝังเขาไว้เช่นนั้น พูดง่ายๆก็คือ มาช่วยฝังร่างของบาดี หลังจากที่เขากระทำอัตวินิบาตกรรมนั่นเอง!

ก่อนที่บาดีจะถอดใจ เขาได้พบกับบอเกรี ชายชราชาวตุรกีที่ประกอบอาชีพสต๊าฟสัตว์ได้ตอบตกลงจะเป็นผู้รับหน้าที่อันแสนประหลาดนี้ บอเกรีผู้ที่เคยคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว พยายามเกลี้ยกล่อมบาดีให้ล้มเลิกความคิดตลอดการเดินทางกลับบ้านโดยมีบาดีเป็นผู้มาส่ง อาจเพราะคำพูดของเบกอรีหรือไม่ก็พระเจ้าที่ดลใจทำให้บาดีเลี้ยวรถกลับไปหาบอเกรีอีกครั้ง เพื่อบอกข้อความที่สำคัญบางอย่างกับเขา
อับบาสตั้งใจหยิบหลายๆสิ่งออกไปจากหนังเช่น ตัวละคร เนื้อหา ฉาก ที่สำคัญที่สุดคือการตัดเสียงที่ไม่จำเป็นออกไป 2 เหลือไว้เพียงการพูดคุยระหว่างบาดีกับคู่สนทนาของเขาเท่านั้น ทำให้หนังเรื่องนี้มีความเงียบงันซึมแทรกอยู่โดยตลอด ฉากสนทนาทั้งหลายเต็มไปด้วยความมึนตึง อับบาสเลือกใส่ความเงียบเข้าไปเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่สามารถแสดงบทบาทได้อย่างโดดเด่นราวกับเป็นนักแสดงเสียเอง หลายคนเมื่อได้ดูอาจต้องอดทนกับการเดินเรื่องอย่างเนิบนาบ ไร้จุดพลิกผัน และชวนง่วงหาว แต่หากคุณลองตั้งใจดู อดทนกับสิ่งที่อับบาสเคลือบหลอกเอาไว้ได้ คุณอาจพบกับสาระน้ำดี อารมณ์ขันสุดร้ายกาจ และอาจได้ลิ้มรสผลเชอรี่อันหวานหอมที่อับบาสลอบวางทิ้งไว้ก็เป็นได้
1 ได้รางวัลร่วมกับหนังญี่ปุ่นเรื่อง The Eel
2 Minimalist Style
No comments:
Post a Comment